วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Gift Festival (ไม่ใช่โปสเตอร์งานจิงนะห้ามนำไปใช้ล่ะ)






โปสเตอร์งานกิ๊ฟ (ที่ไม่ใช่ของแท้นะครับ เป็นแค่งานส่งอาจารย์เฉยๆ)

ใช้เวลาทำปะมานวันครึ่ง ก็ได้มาตามนี้ ใจจิงอยากให้มันได้ฟิวน่ารักๆหรือ ไม่แมนขนาดนี้ เหมือนฟิวได้มาแต่ความเป็นร็อค แต่ไม่ได้มาในแบบของงานกิ๊ฟจิงๆเท่าไหร่เลย (ก็นะ ทำตามใจตัวเองไปนิด)






จากตอนแรกที่โดนหลายคนติงมาให้เหวอเล่น(แทบบ้า) ว่ารูปมันออกเป็นร็อคลูกทุ่งบ้าง หรือไม่ก็แผ่นผี mp3 กันบ้าง

รู้สึกปวดตับไปไม่น้อย ทั้งที่ตอนแรกเซฟไปเตรียมปริ้นแล้ว ก็ต้องจิตอ่อนเอามาเปิดแก้ใหม่กันกลางดึก
v













ก็เป็นตามรูปนี้แหละคับ

Faculty of Decorative Arts / Visual Communication Design


งานที่ทำโปสเตอร์ให้กับภาควิชานิเทศศิลป์ (เป็นแค่งานส่งเฉยๆนะ) ที่โจทย์สั่งมาคราวนี้ให้ใช้สีได้ไม่เกิน 2 สี แต่ไม่รวมการเปลี่ยน mono ของสีนะ แล้วก็ต้องการเน้นการจัดวางฟอนท์ให้ดูน่าสนใจ รวมทั้งต้องมีข้อมูลด้วย

จากงานที่แล้วที่ผมเลี่ยงการใช้กริด อะไรทำนองนั้นมาเลยมาปล่อยกับงานนี้ คือต้องการทำให้มันอ่านยากนิดนึงเพื่อความน่าสนใจ( แต่รู้สึกนี่จะยากเกินไปเยอะ ) กับให้ฟอนท์มีความเท่ห์แบบสตรีทกราฟฟิตี้เล็กน้อย ล้ำนิดๆ ก็ทำออกมาโดยใช้ตีมฟอนท์แบบเดียว โดยคุมให้เป็น 60องศาทั้งงาน

ถึงแม้จะดูเป็นกราฟฟิกที่อะไรก็เถอะ แต่ถ้าดูดีๆ ก็จะเขียนตามคำว่า visual communication design นะคับ
งานนี้ก็ค่อนข้างเผานะ เริ่มทำเที่ยงๆ ก่อนเย็นๆต้องถ่อร่างออกไปเรียนแบ็ต

Faculty of Decorative Arts / Fashion Design


งานโปสเตอร์ประจำภาควิชาของคณะเด็คนะ ตอนแรกผมกะจะเลือกภาคอย่างอินทีเรียหรือไม่ก็โปรดักแล้วอาจจะใช้กริด หรือ ไม่ก็เชพฟอร์มของโปรดักมาทำกราฟฟิก อะไรบางส่วน แต่คิดดูแล้วไม่ค่อยไป บวกกับคิดว่าคงทำออกมาแล้วไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่ ก็นั่งคิดกันนานมาก สุดท้ายผมก็ไม่ได้อะไรมา
ก็เลยเปิดอีลาสกันห้วนๆ แล้วขึ้นเส้นpathโค้งมาเส้นนึงหลังจากนั้น ก็วาดโครงเส้นหยึยซ้อนไปมาเรื่อยๆ ไม่ได้สเก็ต ไม่ได้วางแผนไรก่อนเลย ก็ได้มากันตามนี้คับ ตอนแรกเนื้องานค่อนข้างวุ่นวายมากๆ (มีผู้หญิง 2 หน้า แล้วลายละเอียดที่แน่นตึ้บกว่านี้) ดูจะไม่เวิค
ก็เลยทอนๆลงมา(ขนาดทอนแระนะ -*-)
ส่วนสีเนื้องานโดนโจทย์กำหนดครับว่าให้ทำโปสเตอร์สไตล์เกสตอลท์ ก็เลยหยิบได้แค่สีขาวกับดำเท่านั้นคับ








Graphic Design








งานที่โจทย์สั่งให้ทำหน้าปกหนังสือ วิชาอะไรก็ได้ที่มีให้เรียน ผมก็ไม่คิดไรมากเลยเลือกวิชานี้มาซะเลย
โดยสั่งให้เป็นโปสเตอร์แบบเกสตอลท์(กลับค่าสี ขาว-ดำ)

รวมๆแล้วเนื่องจากความขี้เกียดของผม ผมต้องการทำออกมาเป็นแบบ minimal นะคับ โดยเริ่มทำจากฟอนท์ก่อน ซึ่งทีแรกคิดว่าก็กะจะจบแค่ฟอนท์ แต่ดูแล้วมันแหม่งๆมากกก อีกอย่างเด๋วดูแล้วจะทำน้อยเกิน ก็เลยไปเปิดไฟล์เก่าแก่ที่เคยทำไว้สมัย มศว มาปรับแก้แล้วใส่ไปก็คือตรงไอ้ม้าลายนั่นแหละ (มีกลิ่นอาย op art เล็กๆ) แล้วทำให้ดูเหมือนเป็นบาร์โค้ด

ตอนแรกที่ทำออกมาค่อนข้างพอใจ แต่สุดท้ายผมกลับดูว่ามันไม่เวิคเลยนะงานนี้ ไม่ว่าจะด้วยการจัดวาง ทั้งฟอนท์ ทั้งลายภาพ ถึงจะดูน้อย แต่ก็ดูไม่ลงตัว เชยๆไม่ดึงดูดยังไงบอกไม่ถูก

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552













งานเก่าครับ สมัยตอน ปี 1 ขึ้น ปี 2 สมัย มศว ที่ผมลงทุนใช้กระดาษฟราบิโน่เลยทีเดียว
ซึ่งพอเปลี่ยนกระดาษ สไตล์งานกับความกล้าในการลงสีก็เปลี่ยนไปเยอะ จาก 100 ปอนด์ธรรมดาที่ลงสีไม่กี่แหมะ ก็งอโก่งเป็นลูกคลื่น แต่ผิดกลับฟราบิโน่ที่ทนมือทนตีนซะเหลือเกิน เลยกล้าที่จะใส่เปียกบนเปียกแบบเต็มสูบไปเลย
ถ้าตอนนี้วาด ก็คงน่าจะดีกว่านี้นะผมว่า เพราะนี่มันก็นานแล้ว
รูปพอร์ทเทรดก็ตามสไตล์ผมที่มีปันหาในการวาดจมูกตลอด
สุดท้ายคือ 3 รูปล่าง สแกนมาไม่เต็มรูปครับ รูปใหญ่ไปหน่อย


วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Safety




เส็ดแล้วครับ กะงานใหม่ที่ทำ 3 วันซึ่งตามจิงเร่งๆหน่อยวัน-วันครึ่ง ทั้งหมดก็เส็ดทัน -*-
เนื่องด้วยสปีดที่เต็มที่แบบไม่คิดมาก เพจก็เลยดูเชยๆนิดนึง แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ
เพราะงานเน้นแค่ตัว caution / maintenance เท่านั้น
งานนี้คงไม่ต้องพูดไรมากครับทำแบบอีลาสง่ายๆ ไม่ได้ละเอียดมาก (ปกติผมเก็บกิ๊กกว่านี้นะ) งานก็เลยเส็ดเร็วก่อนเวลาคิดไว้เยอะเลย

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Slowmotion Art















แปลกดีกับความงามในการบันทึกภาพแบบ Slow ครับ ทำให้ได้เห็นภาพที่ปกติไม่สามารถมองเห็นได้เลย
credit www.gconsole.com

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Human Furniture













































อัพครั้งนี้ไม่มีไรครับ เห็นภาพพวกนี้รู้สึกว่าแปลกอาร์ทดีแฮะ งานอย่างนี้จัดว่าเป็น installation ได้มั้ยนะ ?? 55



จะว่าภาพพวกนี้อาจจะแนวคิดคล้ายกับหนังเรื่อง salo รึป่าวนะ ที่แบบว่ามีการเอามนุษย์มาข่มเหง กดขี่ แล้วเปรียบมนุษย์ที่อยู่ต่างชั้นเป็นเหมือนสิ่งของ หรือโรงงานที่เพียงเอาอาหารเข้าปาก ย่อยสลายออกทางตูด???

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

666








เสร็จแล้วครับ กับงานที่ทำแล้วรุสึกงงกับตัวเอง ว่าเก็บกดไรรึป่าว 55 ก็ลองเปลี่ยนสไตล์งานจาก เดิมทีที่ใช้เลเยอร์มากมายหลายชั้นในการทำน้ำหนักให้งาน เปลี่ยนเป็นเงาน้ำหนักเดียว แล้วใช้เป็นลวดลาย จากนั้นก็ตามด้วย gradiant ที่งานนี้ยิงปิ้วๆ มั่วกันทั้งงานเลยทีเดียว



เห็นอย่างงี้แต่มีเลเยอร์เสียเยอะมาก ที่ปิดบังแอบซ่อนอยู่ ใต้ผลงาน อีกทั้งอนาโตมี่ที่ค่อนข้างไม่ได้ส่วนเป๊ะ ก็เป็นปัญหาหลักสำหรับงานนี้มากเลย เพราะว่าผมจบสูตรดรออิ้งมาแค่ porttrait น่ะนะ งานนี้จึงเป็นโจทย์ยากที่ทำเอา ต้องแก้แล้วแก้อีก (โดยเฉพาะตัวผู้หญิง ที่แก้กันถึง 3 4 รอบด้วยกัน) แต่ดีครับ เพราะอย่างน้อยก็จบงานโดยไม่มีการดาฟเกิดขึ้น lol



พูดถึงคอนเซ็ป ก็ไม่รุสินะ จากเดิมที ที่ทำเลเยอร์เยอะๆ ผมก็อยากเปลี่ยนมาเป็นน้อยๆ บ้าง ส่วนเรื่องราวของภาพ ผมก็งงกับตัวเองเหมือนกัน ไม่มีอะไรมากครับ นอกจากความรู้สึกอยากวาดรูปนี้ขึ้นมา อาจจะเพราะช่วงนี้ฟังเพลง death metal ทุกวันด้วยมั้ง เลยอารมณ์แปรปรวน lol



ทำออกมาเสร็จก็พอใจผลงานมากครับ แต่รู้ว่างานนี้มีจุดผิดเพี้ยนเยอะ ทั้งสีทั้งสัดส่วนที่มีให้ติ กันพอควรเลย แต่นับเป็นประเดิมงานสไตล์ใหม่ชิ้นแรก ถ้าไม่รีบจบงานเร็วกว่านี้ ตามจิงผมอยากใส่ลายละเอียดอะไรมากขึ้นกว่านี้อีกนิดนะ






เอาล่ะคับ ส่วนนี้ขอนอกเรื่องบ้างที่พูดถึง death metal

จากนี้ไปขอบ่นถึงเพื่อน หรือผู้ มีอคติต่อเพลงที่คุณๆ กำลังฟังหรือได้ยิน ส่วนตัวผม ผมเป็นคนที่ฟังเพลงได้ทุกแนวนะ ตั้งแต่เกาหลีจ๋า ยัน death metal ที่แหกปากไม่รู้ว่ามันร้อง(ห่า)ไรออกมา แต่ที่ไม่ชอบก็พวกแนวฮิพน่ะนะ อันนั้นฟังแล้วรุสึกรำคาญ ที่จะบ่นก็คือการปิดกั้นตัวเองของผู้มีอคติ ที่คิดว่าตนนั้นมีสไตล์นี้ (อาจจะเช่นการแต่งตัว หรืออะไรก็แล้วแต่) ทำให้เป็นกำแพงสูงกั้นว่า อย่างข้าน่ะ ไม่ฟังหรอก เกาหลี ลาว เสี่ยวอย่างข้ามันต้องการาจร็อค เออก็ว่ากันไป ทั้งที่ตามจิงพวกคุณนั้นยังไม่ได้เปิดใจฟัง หรือ แม้แต่จะฟังคุณก็ด่าว่ามันเสี่ยวก่อนแล้ว ซึ่งบางที การที่เราไปตามสถานที่ที่นึงที่มันเปิดเพลงที่คุณมีอคติ หรืออะไรก็แล้ว แต่คุณฟังแล้วมันติดหู หรือถึงกับเอามาฮัมเพลงในใจ แต่ปากคุณกับบอกว่ามันเสี่ยว ผมว่านั้นแหละคือการปฏิเสธ การพยายามไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น แท้จิงแล้วเพลงแต่ละประเทศมันก็มีแนวของเค้าไป คำว่าเสี่ยว ไม่เสี่ยว ผมว่ามันไม่มีหรอกครับ มันมีแต่คำว่าคุณชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น


วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552

photo shot(p)




คับ กับงานที่ถ่ายเส็ดแล้ว แบบเห็น(หนัง)หน้า กันชัดๆ แนวตั้ง ซึ่งตามจิงส่งแบบหลบมุมแนวนอน
ที่ถึงขั้นกับมาตั้งหัวข้อใหม่เนี่ยะ ใช่ว่าจะเห่อกับเจ้างานนี่หรอกครับ แต่จะพูดถึงเรื่องที่จะถ่ายรูปกันบ้าง
งานนี้ต้องรบกวนพ่อให้มาเซ็ตไฟถ่ายนะ (เพราะที่บ้านไฟมืด ไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ บวกกับถ่ายเอาซะกลางคืน) ก็จัดไฟยังกะสตูดิโอย่อมๆ กันเลยทีเดียว

ตามจิงนะ เรื่องการถ่ายรูปแค่นี้ มันใช่ว่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากไรเลย แต่เพราะผมเองก็ไม่ได้เคยเรียนหรือ แม้แต่จะสนใจถ่ายรูป เพราะกล้องส่วนตัวน่ะมันมี แต่ไม่เคยคิดจะเอาไปถ่าย เป็นคนไม่พกกล้องเลย ปันหาที่ตามมาก็คือ ถ่ายรูปไม่เป็น ต้องใช้คำว่า ไม่เป็น กันเลยทีเดียวนะ เพราะแค่เปิดกล้องมา ก็งงตึ้บกับโหมดมันแล้ว ไปจอเมนู กลับไปโหมดถ่ายก็ต้องสะกิดเพื่อน เฮ่ย มึงเปลี่ยนกลับโหมดถ่ายให้หน่อยเดะ กูใช้ไม่เป็นว่ะ 555

อืม...นะ ตามจิง ก่อนเราจะซิ่วก็เห็นเพื่อนๆเค้าเรียนคอสถ่ายรูปกันตอนปิดเทอม เสียดายที่ช่วงนั้นเราต้องเตรียมจะไปรับน้องใหม่ซะแล้ว เฮ่อ

นอกจากใช้กล้องยังเป็นแล้ว ยังใช้ photoshop ไม่เป็นอีก (จิงแล้วมันเป็นน่ะ แต่พอไม่ได้ใช้มันเลยระเหิดออกจากสมอง) แค่จะเปลี่ยนสีแต่งรูป ต้องวนดูกันนานเลยทีเดียว ใช้เลเยอร์ก็ไม่ค่อยคล่อง เฮ่อ แย่ครับ ก่อนหน้านั้นไม่น่าทิ้งช็อปไปเลย ตอนนี้เข็ดมาก

เอ่อ แล้วก็นี่เป็นรูปผมรูปแรกล่ะม้างที่เอาหน้าตัวเองลงเน็ตให้ได้เห็นกัน 555 ก็ ไครยังไม่เคยเห็นก็นี่แหละคับ สวัสดีคับ